ในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ท่านนบีอีซาแห่งนาซาเร็ธถูกเรียกด้วยพระนามต่างๆ มากมาย หนึ่งในพระนามที่พบบ่อยที่สุดคือพระคริสต์ มาจากภาษากรีก Χριστός / คริสโตส หรือมาซีฮาจากภาษาฮีบรู מָשִׁיחַ / มาชียาห์ ทั้งสองเมื่อแปลแล้วหมายถึง “ผู้ได้รับการเจิม” ผู้ที่ได้รับการเลือกและได้รับพระราชทานฤทธิ์เดชจากพระเจ้าเป็นพิเศษสำหรับพระราชกิจที่เป็นเอกลักษณ์และสำคัญที่สุด คำภาษาอาหรับว่าอีซามาจากภาษาฮีบรู Ha Mesias แต่ไม่มีความหมายของตัวเองในภาษาอาหรับ กษัตริย์และมหาปุโรหิตชาวฮีบรูถูกเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ที่เทเหนือศีรษะของพวกเขาเพื่อแสดงว่าพวกเขาได้รับการเลือกสรรโดยพระเจ้าสำหรับบทบาทของพวกเขา ดังนั้นในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ท่านนบีอีซาถูกเรียกว่าพระราชา พระมหากษัตริย์แห่งบรรดากษัตริย์ องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งบรรดาเจ้านาย และมหาปุโรหิตใหญ่ พระนามอื่นๆ สำหรับท่านอีซาในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์คือผู้ช่วยให้รอด ผู้ไถ่ ผู้เป็นสื่อกลาง พระวจนะนิรันดร์ของพระเจ้า พระปัญญาศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า ความสว่างแห่งโลก ผู้เลี้ยงแกะที่ดี ประตู ทาง ความจริง ความสว่าง ดาวประกายรุ่งอรุณ มหาฤกษ์แห่งกิเลอาด ผู้พิพากษาสุดท้าย บุตรของมารีย์ บุตรแห่งมนุษย์ ศาสดาที่ทรงสัญญาไว้ ลูกแกะของพระเจ้า เครื่องบูชาสุดท้าย ผู้ปราศจากบาป และผู้รับใช้ผู้ทรงรับทุกข์ รายการดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แต่พระนามที่ทำให้หลายคนสนใจและทำให้อีกหลายคนกระวนกระวายใจมากขึ้นคือพระนามที่แปลกและลึกลับในภาษากรีก: μονογενής υἱός τοῦ Θεοῦ, huios monogenes theo, บุตรองค์เดียวของพระเจ้า
มนุษย์จะถูกเรียกว่าบุตรของพระเจ้าได้อย่างไร? การกล่าวเช่นนั้นมิใช่การหมิ่นประมาทพระเจ้าหรือ?
ข้าพเจ้าคิดว่าเราทุกคนจะเห็นพ้องกันว่าพระเจ้ามิได้ให้กำเนิดและพระองค์ก็มิได้ถูกให้กำเนิด นี่เป็นความจริงอย่างแน่นอนหากเรากำลังพูดถึงความสัมพันธ์ทางเนื้อหนังและเลือดที่ได้มาจากการรวมกันทางเพศของชายและหญิง หลายคนคิดว่านี่คือสิ่งที่ชาวคริสเตียนหมายถึงเมื่อพวกเขาใช้คำว่า “บุตรของพระเจ้า” แต่พวกเขาเข้าใจผิดอย่างมาก ความหมายเช่นนั้นน่าขยะแขยงต่อชาวคริสเตียนเช่นเดียวกับผู้อื่นที่เคารพและนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ ท่านนบีอีซาเองทำให้เรื่องนี้ชัดเจนมาก ความคิดที่ว่าพระเจ้ามีความสัมพันธ์แบบสามีกับภรรยาเป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงเกินกว่าจะพูดถึงอย่างสุภาพ
แต่ท่านเป็นลูกซูราบายาใช่หรือไม่? ใช่หรือ? ซูราบายาแต่งงานกับยอกยาการ์ตาและให้กำเนิดท่านเป็นลูกหรือ? ท่านหมายความว่าอย่างไรด้วยคำว่า “ลูกซูราบายา”? มันหมายถึง “มาจาก” ใช่หรือไม่? “ลูกของ” ไม่จำเป็นต้องหมายถึงความสัมพันธ์ทางเลือดและเนื้อหนัง มันสามารถบ่งบอกถึงต้นกำเนิดได้ เพื่อป้องกันผู้บุกรุกจากการเข้าสู่บ้านของท่าน มีอุปกรณ์ที่ประตูที่เรียกว่ากุญแจ (kunci) ใช่หรือไม่? แล้วท่านเรียกวัตถุโลหะเล็กๆ ที่พอดีกับกุญแจเพื่อเปิดมันว่าอะไร? “ลูกกุญแจ” (anak kunci/key) ใช่หรือไม่? เหตุใดจึงเรียกว่า “ลูกกุญแจ”? แน่นอนกุญแจไม่ได้แต่งงานกับประแจและมีลูก? แล้วทำไมจึงใช้สำนวน “ลูกกุญแจ”? มันสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์และเฉพาะระหว่างทั้งสองใช่หรือไม่? ไม่มีกุญแจอื่นควรเปิดกุญแจนั้น เพราะความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์นั้นคือสิ่งที่กุญแจมีไว้เพื่อ
ลองพิจารณาคันธนูของนายพราน เพลาที่ยิงจากคันธนูเรียกว่าอะไร? “ลูกธนู” (anak busur/arrow) ใช่หรือไม่? แต่คันธนูให้กำเนิดลูกศรหรือ? แน่นอนว่าไม่ใช่ แล้วทำไมเราจึงใช้คำว่า “ลูกธนู”? มันบ่งบอกถึงหน่วยการทำงานเดียวใช่หรือไม่? หนึ่งโดยไม่มีอีกอันหนึ่งไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก เพื่อให้การทำงานของอาวุธได้รับการดำเนินการ ทั้งสองต้องทำหน้าที่เป็นหน่วยเดียว
ตอนนี้ท่านเห็นหรือไม่ว่าคำว่า “ลูกของ” สามารถหมายถึงสิ่งต่างๆ มากมาย? เช่นเดียวกับพระนาม “บุตรของพระเจ้า” ในอินญีลชัดเจนว่าในฐานะบุตรของพระเจ้า ท่านนบีอีซา อัลมาซีห์มีต้นกำเนิดจากพระเจ้าในสวรรค์ พระองค์ยังมีความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์และไม่อาจเปรียบเทียบได้กับพระเจ้า ไม่เหมือนบุคคลอื่นใดในประวัติศาสตร์ทั้งหมด พระองค์ยังถูกเรียกว่าผู้ช่วยให้รอด แต่เฉพาะพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถช่วยเราให้รอดตลอดนิรันดร์ พระองค์เป็นหน่วยการทำงานเดียวกับพระเจ้าเพื่อความรอดของมนุษยชาติ ไม่ พระนาม “บุตรของพระเจ้า” ไม่ได้หมายถึงความสัมพันธ์ทางเนื้อหนังและเลือดประเภทใดๆ นั่นน่าขยะแขยงและเป็นการดูหมิ่นต่อผู้ติดตามทั้งหมดของท่านนบีอีซาที่เชื่ออินญีล พระนาม “บุตรของพระเจ้า” ชี้ไปยังความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณที่เป็นเอกลักษณ์และนิรันดร์ระหว่างท่านนบีอีซาและพระเจ้า
ท่านนบีอีซาจะเป็น “นิรันดร์” ได้อย่างไรหากพระองค์ประสูติในช่วงเวลาที่แน่นอนจากมารดาที่เป็นมนุษย์เหมือนทุกคน?
นี่เป็นอีกหนึ่งความเข้าใจผิดที่ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งซึ่งมาจากคำว่า “บุตรของพระเจ้า” น่าเสียดายที่ผู้ติดตามของท่านนบีอีซาไม่ค่อยกล่าวถึงประเด็นนี้ ก่อนที่ท่านจะกลายเป็นลูกของพ่อแม่ของท่าน ท่านอยู่ที่ไหน? ชาวคริสเตียนเชื่อว่าก่อนที่เราจะถูกปฏิสนธิ เราไม่มีอยู่จริง เราฉลองการประสูติของใครในช่วงเทศกาลคริสต์มาส? ของท่านนบีอีซา ใช่หรือไม่? คนส่วนใหญ่คิดว่าผู้ติดตามของท่านนบีอีซาเชื่อว่าการประสูติอันถ่อมตนของพระองค์ในคอกม้าในเบธเลเฮมในปาเลสไตน์เป็นจุดเริ่มต้นของบุตรของพระเจ้า ข้อพระคัมภีร์มากมายในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์หักล้างความคิดนี้
ไม่เหมือนพวกเราที่เหลือ บุตรของพระเจ้าได้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดร์กาล พระองค์มิได้ถูกจำกัดด้วยเวลาเหมือนเรา พระองค์ถูกเรียกว่าพระวจนะ / พระดำริ / พระปัญญา / การสื่อสารนิรันดร์และทรงพระชนม์ของพระเจ้า ผ่านทางพระวจนะของพระเจ้าที่ไม่ถูกสร้าง ทุกสิ่งที่แยกจากพระเจ้าถูกสร้างขึ้น พระเจ้าสามารถถูกแยกจากพระวจนะ / พระดำริ / พระปัญญาของพระองค์ และยังคงเป็นพระเจ้าได้หรือ? พระวจนะ / พระดำริของพระเจ้าสามารถถูกตัดออกจากพระเจ้าอย่างใดอย่างหนึ่งและส่วนที่เหลือยังคงเป็นพระเจ้าได้หรือ? แน่นอนว่าไม่ใช่ บุตรของพระเจ้ามิได้เกิดขึ้นในคืนที่เราฉลองเป็นวันคริสต์มาส แม้แต่ในช่วงเวลาอันมหัศจรรย์นั้น พระองค์ได้ทรงดำรงอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนจุดเริ่มต้นของจักรวาล ในวันคริสต์มาสของแต่ละปี เราฉลองพระวจนะของพระเจ้าที่ทรงเทพระองค์เองเพื่อเห็นแก่เราเพื่อกลายเป็นมนุษย์ที่แท้จริง แต่ข้อเท็จจริงอันยิ่งใหญ่นี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ลดทอนความจริงที่ว่าพระองค์ทรงเป็นนิรันดร์
เนื่องจากมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับพระนาม “บุตรของพระเจ้า” ทำไมผู้ติดตามของท่านนบีอีซาไม่ทิ้งมันและใช้พระนามอื่นๆ มากมายในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระองค์?
นั่นเป็นคำถามที่ดี และคำตอบค่อนข้างง่าย ผู้ติดตามของท่านนบีอีซาไม่ใช่คนแรกที่ให้พระนามอันสูงส่งเช่นนี้แก่ท่านนบีอีซา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีอิสระที่จะทิ้งมัน มลาอิกะห์ญิบรีล / อัครเทวทูตกาเบรียลเป็นคนแรกที่พยากรณ์ว่าท่านนบีอีซาจะถูกเรียกว่าบุตรของพระองค์ผู้สูงสุด (พระเจ้า) ท่านทำเช่นนี้ถึงสองครั้ง ขณะที่ท่านประกาศแก่มารีย์ / สิติมารยัมว่านางจะกลายเป็นมารดาพรหมจารีของพระมาซีฮาอย่างอัศจรรย์ (อินญีล ลูกา 1:30-35) ครั้งแรกที่ท่านนบีอีซาเองถูกเรียกว่าบุตรของพระเจ้าจริงๆ คือเมื่อพระองค์ทรงรับบัพติศมาโดยท่านนบียะห์ยา จากนั้นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาและดำรงอยู่เหนือท่านนบีอีซาเป็นการเจิมพิเศษและศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นพระสุรเสียงจากสวรรค์มาประกาศว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เราโปรดปรานท่าน” (อินญีล มาระโก 1:9-11)
องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าเองจากสวรรค์ประกาศต่อโลกว่าท่านนบีอีซาเป็นบุตรของพระองค์เอง นี่ไม่ใช่การเปิดเผยผ่านทางศาสดาหรือนิมิตหรือคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ช่วงเวลาในประวัติศาสตร์มนุษย์ที่พระเจ้าสื่อสารโดยตรงกับมนุษยชาติโดยไม่มีสื่อกลาง ความสำคัญของการเปิดเผยตำแหน่งของอีซา อัลมาซีห์ในฐานะบุตรของพระองค์เป็นเช่นนี้
ท่านนบีอีซาเคยรับทราบพระนาม “บุตรของพระเจ้า” และอนุญาตให้ผู้ติดตามของพระองค์เรียกพระองค์เช่นนั้นหรือไม่?
หลังจากที่ท่านนบีอีซาได้อยู่กับผู้ติดตามที่ใกล้ชิดที่สุด 12 คนของพระองค์ประมาณ 2 ปี พระองค์ได้ทรงถามพวกเขาคำถามที่น่าทึ่ง: “ผู้คนกล่าวว่าเราเป็นใคร?” พวกเขาตอบว่าผู้คนกำลังกล่าวว่าพระองค์เป็นศาสดาจากพระเจ้าเหมือนท่านนบียะห์ยา ท่านนบีเอลียาห์ และท่านนบีเยเรมีย์ จากนั้นพระองค์ทรงถามพวกเขาว่า “ท่านทั้งหลายว่าเราเป็นใคร?” ซีโมน เปโตร ซึ่งมักจะเป็นคนแรกที่พูดหรือกระทำ ตอบว่า “ท่านคือพระมาซีฮา / อัลมาซีห์ บุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์” การตอบสนองของท่านนบีอีซาต่อการยืนยันที่น่าอัศจรรย์นี้ก็น่าอัศจรรย์พอๆ กัน “ท่านได้รับพระพร ซีโมนบุตรของโยนาห์! เนื้อหนังและเลือดมิได้เปิดเผยสิ่งนี้แก่ท่าน พระบิดาของเราในสวรรค์ได้ทรงเปิดเผยสิ่งนี้แก่ท่าน” (อินญีล มัทธิว 16:16-17) กอีกนัยหนึ่ง ซีโมน เปโตรมิได้เรียนรู้สิ่งนี้จากมนุษย์อีกคนหนึ่ง รวมถึงท่านนบีอีซาเอง! เขามิได้เพียงแค่ทำซ้ำโดยท่องจำสิ่งที่ครูของเขาสอนเขา ซีโมน เปโตรได้รับการเปิดเผยโดยตรงจากพระเจ้าเอง
หากท่านนบีอีซารู้สึกว่าพระนามนี้สำหรับพระองค์ไม่เหมาะสมหรือว่ามันทำให้พระเจ้าเสื่อมเสียเกียรติ พระองค์จะตำหนิซีโมน เปโตรอย่างแน่นอน แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ท่านนบีอีซาสรรเสริญเขาต่อหน้าผู้ติดตามคนอื่นๆ สำหรับการเปิดใจของเขาต่อความเข้าใจที่ได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าเกี่ยวกับตัวพระองค์เอง แม้แต่ในคำตอบของพระองค์ ท่านนบีอีซายืนยันความสัมพันธ์พิเศษของพระองค์กับพระเจ้าโดยเรียกพระองค์ว่า “พระบิดาของเรา” ไม่ต้องสงสัย ผู้ติดตามของพระองค์ยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับทั้งหมดนี้ แต่พวกเขาเข้าใจอย่างแน่นอนตั้งแต่นั้นมาว่า ท่านนบีอีซาเป็นมากกว่าแค่หนึ่งในบรรดาศาสดา พระองค์ทรงเป็นเอกลักษณ์โดยสิ้นเชิงและยิ่งใหญ่กว่าพวกเขาทั้งหมด
เราจะสามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ได้หรือไม่ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าหมายถึงอะไรทั้งหมดในอินญีลเมื่อพระองค์เรียกท่านนบีอีซา อัลมาซีห์ว่า “บุตรที่รัก” ของพระองค์เอง?
เราจะไม่สามารถเข้าใจพระนาม “บุตรของพระเจ้า” อย่างสมบูรณ์ได้ แต่เราแน่นอนว่าไม่มีอิสระที่จะเพิกเฉยหรือแย่กว่านั้นคือทิ้งมัน เพียงเพราะบางคนอาจเข้าใจผิดได้ง่าย เราต้องพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะเจาะลึกเข้าไปในความหมายที่ลึกซึ้งที่สุดของมัน เพราะในนั้นคือแก่นแท้ของว่าท่านนบีอีซา อัลมาซีห์เป็นใครจริงๆ เฉพาะเมื่อในหัวใจของเราเรารู้จักท่านนบีอีซาเป็นการส่วนตัวในฐานะเพื่อนและผู้นำทาง เราจึงสามารถเริ่มเปิดความลึกลับของการเปิดเผยและการสื่อสารที่สำคัญที่สุดของพระเจ้าแก่เรา